ถังดับเพลิงแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร

เมื่อพูดถึง “ถังดับเพลิง” หลายคนอาจเห็นว่าเป็นเพียงอุปกรณ์ความปลอดภัยที่ต้องมีไว้ในอาคาร โรงงาน หรือสำนักงาน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ถังดับเพลิงแต่ละประเภทมี “สี” และ “สัญลักษณ์” ที่สื่อถึงชนิดของสารเคมีภายใน ซึ่งถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการดับไฟแต่ละประเภท หากเลือกใช้ผิดประเภท อาจไม่สามารถดับไฟได้ หรืออาจทำให้สถานการณ์แย่ลงได้ ดังนั้น การเข้าใจความหมายของสีและสัญลักษณ์บนถังดับเพลิงจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก


ชนิดผงเคมีแห้ง (Dry Chemical Powder)

ถังสีแดงเป็นชนิดที่เราพบเห็นได้บ่อยที่สุด ใช้สารเคมีแห้งเป็นตัวดับไฟ สามารถใช้ได้กับไฟหลายประเภท เช่น

  • ไฟประเภท A: ไฟจากวัสดุธรรมดา เช่น กระดาษ ไม้ ผ้า

  • ไฟประเภท B: ไฟจากของเหลวติดไฟ เช่น น้ำมัน สี

  • ไฟประเภท C: ไฟจากอุปกรณ์ไฟฟ้า

ข้อดีของถังดับเพลิงสีแดงคือ “ใช้งานได้หลากหลาย” จึงเหมาะกับบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน และโรงงานทั่วไป อย่างไรก็ตาม หลังการใช้งาน ผงเคมีจะฟุ้งกระจายและอาจทิ้งคราบไว้ จึงควรทำความสะอาดพื้นที่หลังดับไฟเสร็จ


ชนิดน้ำยาเหลวระเหย (Clean Agent)

ถังสีเขียวมักใช้ในพื้นที่ที่ต้องการป้องกันความเสียหายจากสารตกค้าง เช่น ห้องเซิร์ฟเวอร์ ห้องคอมพิวเตอร์ หรือห้องควบคุมเครื่องจักร น้ำยาในถังจะระเหยอย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งคราบ และไม่เป็นอันตรายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า เหมาะสำหรับดับไฟประเภท A, B และ C เช่นเดียวกัน แต่มีข้อดีคือ “ไม่ทิ้งคราบและไม่ทำลายสิ่งของ”


ชนิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂)

ถังดับเพลิงชนิดนี้บรรจุก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ภายใต้แรงดันสูง เมื่อฉีดออกมาจะเป็นไอเย็นจัด ใช้ดับไฟประเภท B และ C ได้ดี โดยเฉพาะไฟจากอุปกรณ์ไฟฟ้า เพราะไม่ทิ้งสารตกค้าง แต่ไม่เหมาะกับพื้นที่อับ เนื่องจากก๊าซ CO₂ อาจลดปริมาณออกซิเจนในอากาศ


ชนิดน้ำ (Water)

เหมาะสำหรับดับไฟประเภท A เท่านั้น คือไฟจากวัสดุที่ติดไฟได้ง่าย เช่น กระดาษ ไม้ ผ้า แต่ห้ามใช้กับไฟฟ้าหรือของเหลวติดไฟ เพราะจะทำให้ไฟลุกลามหรือเกิดไฟฟ้าช็อตได้


ชนิดโฟม (Foam)

ใช้สำหรับดับไฟประเภท A และ B โดยเฉพาะไฟจากน้ำมันหรือของเหลวติดไฟ เพราะฟองโฟมจะเคลือบผิวหน้าไฟ ป้องกันไม่ให้ออกซิเจนสัมผัสกับเชื้อเพลิง เหมาะกับสถานีบริการน้ำมันหรือโรงงานผลิตสารเคมี


✅ เคล็ดลับการเลือกใช้ถังดับเพลิง

  1. ตรวจสอบประเภทไฟที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ เช่น ห้องเครื่องควรใช้ชนิด CO₂ ส่วนสำนักงานควรเลือกน้ำยาเหลวระเหย

  2. ดูสัญลักษณ์และสีของถังให้ชัดเจน ก่อนใช้งานทุกครั้ง

  3. ตรวจเช็กแรงดันและวันหมดอายุเป็นประจำ เพื่อให้มั่นใจว่าถังพร้อมใช้งานเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน


การรู้จักสัญลักษณ์และสีของถังดับเพลิงไม่เพียงช่วยให้เราเลือกใช้ได้ถูกต้องเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสียหายและเพิ่มความปลอดภัยให้กับชีวิตและทรัพย์สินของเราได้อย่างแท้จริง เพราะ “ไฟ” เกิดขึ้นได้เสมอ และ “การเตรียมพร้อม” คือสิ่งที่ป้องกันความสูญเสียได้ดีที่สุด.

#ถังดับเพลิง #ความปลอดภัย #ดับเพลิง #BJBrothers #สัญลักษณ์ถังดับเพลิง

แชทผ่านไลน์