เลือกหมวกนิรภัยอย่างไรให้เหมาะกับงานของคุณ

หมวกนิรภัยเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยปกป้องศีรษะจากอันตรายในงานที่มีความเสี่ยง เช่น โรงงานหรือไซต์ก่อสร้าง การเลือกหมวกที่เหมาะกับงานจะช่วยให้คุณปลอดภัยและทำงานได้อย่างมั่นใจ บทความนี้จะแนะนำวิธีเลือกหมวกนิรภัยให้เหมาะสมในแบบเข้าใจง่าย!

รู้จักประเภทของหมวกนิรภัย

หมวกนิรภัยมีหลายแบบ แต่ละแบบเหมาะกับงานต่างกัน

  • Hard Hat: หมวกแข็งสำหรับงานหนัก ป้องกันวัตถุตกหล่นหรือการกระแทก มีแบบ Class G (ป้องกันไฟฟ้าทั่วไป) และ Class E (ป้องกันไฟฟ้าแรงสูง)

  • Bump Cap: หมวกน้ำหนักเบา ป้องกันการกระแทกเบาๆ เหมาะกับงานในพื้นที่แคบ

  • หมวกเฉพาะทาง: เช่น หมวกทนความร้อนสำหรับงานดับเพลิง หรือหมวกที่มีสายรัดสำหรับงานบนที่สูง

เลือกตามประเภทงาน

  1. งานก่อสร้างหรือโรงงานหนัก
    เลือก Hard Hat ที่ทำจากพลาสติก ABS หรือ HDPE ทนแรงกระแทกได้ดี ควรมีสายรัดคางเพื่อความมั่นคง หมวกที่ผ่านมาตรฐาน ANSI Z89.1 หรือ EN 397 เหมาะกับงานที่มีความเสี่ยงจากวัตถุตกหล่น

  2. งานไฟฟ้า
    ถ้าทำงานกับระบบไฟฟ้า เช่น ช่างไฟในโรงงาน เลือกหมวก Class E ที่ป้องกันไฟฟ้าได้ถึง 20,000 โวลต์ หลีกเลี่ยงหมวกที่มีชิ้นส่วนโลหะ เพราะอาจนำไฟฟ้า

  3. งานในพื้นที่แคบ
    ในงานที่ไม่มีความเสี่ยงจากวัตถุหนัก เช่น โกดังหรือคลังสินค้า Bump Cap เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะเบาและระบายอากาศได้ดี

เน้นมาตรฐานและความสบาย

หมวกนิรภัยที่ดีต้องผ่านมาตรฐานสากล เช่น ANSI Z89.1 หรือ EN 397 ตรวจสอบสติกเกอร์ภายในหมวกเพื่อยืนยันคุณภาพ นอกจากนี้ หมวกควรสวมสบาย:

  • ขนาด: ปรับสายรัดให้กระชับ ไม่หลวมหรือคับเกินไป

  • น้ำหนัก: เลือกหมวกน้ำหนักเบาเพื่อลดอาการเมื่อย

  • การระบายอากาศ: หมวกที่มีช่องระบายอากาศช่วยลดความร้อน

ข้อควรระวัง

  • อย่าติดสติกเกอร์หรือเจาะหมวก เพราะอาจลดความแข็งแรง

  • เปลี่ยนหมวกทันทีหากผ่านการกระแทกหนัก

  • อย่าสวมหมวกนิรภัยทับหมวกอื่น เช่น หมวกแก๊ป

สรุป

การเลือกหมวกนิรภัยต้องดูประเภทงาน มาตรฐานความปลอดภัย และความสบาย Hard Hat เหมาะกับงานหนัก ส่วน Bump Cap เหมาะกับงานเบา เลือกหมวกที่ได้มาตรฐานและเหมาะสม เพื่อความปลอดภัยและความมั่นใจในทุกการทำงาน!

แชทผ่านไลน์